เรื่องน่าเศร้าของการตลาดออนไลน์ที่ไร้กลยุทธ์ด้านข้อมูล
ปัญหาส่วนใหญ่ของการวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะเมื่อถอดจากกรณีศึกษาประสบการณ์ที่ช่วยธุรกิจวางแผนด้าน Digital Media Strategic Planner คือแบรนด์หรือผู้ประกอบการจำนวนมากมักมองข้ามความสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์วางแผนใช้งบประมาณทางการตลาดด้วย InsightData ของแบรนด์เอง (Owned Media) และมักจะเข้าใจว่าการใช้ Influencer Marketing เพื่อพูดแทนแบรนด์ โปรโมทแทนแบรนด์ จะเป็นทางลัดของการสร้างการรับรู้ หรือกระทั่งการสร้างรายได้ แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เพราะยอดขายที่ได้มาก็มาแบบวูบเดียวหาย หรือได้ลูกค้าแบบผิดฝาผิดตัวก็ยังมี
ใช้ Influencer Marketing แต่ไม่ได้ยอดขาย !
โดยส่วนใหญ่แล้วแบรนด์หรือผู้ประกอบการมักจะกระจายงบประมาณการใช้เครื่องมือทาง Google SEO , Google Adword หรือ FacebookAd หรือแม้กระทั่ง Line Adเพื่อให้กลุ่มลูกค้า “เป้าหมาย” มองเห็นให้เยอะ (Impression) มองเห็นให้บ่อย (Retargeting) มองเห็นให้สะดุดตาด้วยส่วนลด (Promotion) โดยพื้นฐานเป็นการทำการตลาดหว่านแหให้กว้างตามกำลังเงิน เพื่อหวังปลาในหลายๆบ่อโดยเชื่อว่าถ้ายิ่งตามหลอกหลอนมากๆ พร้อมส่วนลดแล้ว จะทำให้ลูกค้าใจอ่อนและยอมตัดสินใจซื้อเหมือนในอดีต
… เรื่องจริงก็คือ ถ้าแบรนด์ของคุณเป็นหนึ่งในคนที่คิดแบบนี้ ผู้เขียนต้องบอกว่าคุณกำลังหว่านเงินโดยไม่คุ้มค่าในยุคโควิด-19 เพราะในยุคที่ กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้บริโภคของคุณได้เปลี่ยนวิถีชีวิต วิถีคิดกันไปหมดแล้วจากตัวเลือกที่มีอยู่มากมายเกินกว่าจะจำไหวเนื่องจากใช้เวลาในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์มากกว่าในอดีต ผู้เขียนแนะนำว่าคุณควรทบทวนการจัดงบประมาณทำการตลาดออนไลน์อีกครั้ง ว่ามีสิ่งใด “ควรทำ” และสิ่งใด “ควรเลิกทำ” ในการทำการตลาดออนไลน์ยุคนี้บ้าง
ล็อคเป้าหมายให้ชัดว่าสินค้าคุณเหมาะกับใคร
ปัจจุบันนักการตลาดออนไลน์มีข้อมูลที่เก็บสะสมในช่องทางต่างๆสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก การวิเคราะห์ตัวเลข Metrics ทางออนไลน์ให้ออก และวาดหน้าตาของกลุ่มเป้าหมายให้ชัดร่วมกัน ในศัพท์ทางการตลาดออนไลน์ ที่เรียกกันว่า ” Customer Persona ” จึงไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป โดยคุณสามารถนำข้อมูลใน Advertising Technology Platform ไม่ว่าจะเป็น Facebook Business Suite , Google Analytics ,Social Media Listening หรือแม้กระทั่งการพลิกแพลงประยุกต์ความสามารถของ Research Keyword การหา Idea จากการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายใน Website ของคุณว่าผู้รับชมเข้ามาค้นหาอะไร ที่หน้าไหน และต้องการสินค้าอะไรมากที่สุด ก็จะสามารถสกัดออกมาเป็นหน้าตาของ Customer Persona ได้
ขอย้ำประโยชน์ของการทำ Customer Persona
1.คุณจะรู้จักเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้นว่ากำลัง “สื่อสารกับใคร”
2.สามารถกำหนดกลยุทธ์ช่องทางแพลตฟอร์มการทำการตลาดที่แตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดล็อคไว้แล้ว
3.ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจที่ตรงกัน
4.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
ทางลัดสำหรับ Digital Marketerในการหาให้เจอว่า “ลูกค้าคือใคร”
ปัจจุบันมี Social Media Mangement Platform หรือเครื่องมือในการวิเคราะห์ ทำความเข้าใจว่าผู้รับชม (Audience) ทาง Social Media อยู่เป็นจำนวนมาก โดยหลักการการทำงานของ Marketing Technology (Martech) สายนี้มุ่งค้นหาเบื้องหลังว่าผู้รับชมคิดเห็นอย่างไรต่อแบรนด์ ค้นหา insight หรือ feedback แบบวัดประสิทธิภาพได้ โดยในที่นี้ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่าง 2 Tool เพื่อให้ผู้อ่านไปลองหัดใช้และตั้งโจทย์ธุรกิจ
Facebook Audience Insights (เวอร์ชั่น Update Jul 2021)
เครื่องมือ Facebook Audience Insights
(ข้อมูลเชิงลึก Version update) ใหม่เมื่อก.ค.2021 ของ Facebook
ผู้เขียนเคยเขียนบทความตอนหนึ่งไปแล้วถึงเรื่องของ ค่าย Apple มีการปรับเปลี่ยนระบบการรักษาข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน iphone ในบทความที่ชื่อว่า 3 ข้อรับมือเมื่อ AI ใน Facebook รวนจากกรณี IOS 14 ซึ่งทำให้ Facebook ad manager ได้มีระบบผู้ช่วยลงโฆษณา Facebook แบบใหม่เพื่อป้องกันข้อครหาการละเมิดสิทธิส่วนตัวของผู้รับชมเนื้อหา ทั้งนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนได้ลองเข้าไปใช้งานเครื่องมือเวอร์ชั่นนี้แล้วพบว่า สามารถคาดการณ์กลุ่มเป้าหมายผู้รับชมได้จากสิ่งที่ Facebook สกัดข้อมูลออกมาจากส่วนที่เรียกว่าความสนใจ ( interest) ได้อย่างตรงกลุ่มและเห็นภาพ (ทั้งนี้ผลขึ้นอยู่กับการนำกลุ่มเป้าหมายที่ได้จากเครื่องมือนี้ มาตั้ง objective ทางการตลาดที่เหมาะสม และถูกต้องด้วย)
เครื่องมือ Sprout Social เครื่องมือวางกลยุทธ์ และเก็บ insights ผู้รับชม Social Media
สำหรับจุดแข็งของเครื่องมือ Social Media Mangement Platform เหล่านี้ จะเน้นวัดประสิทธิภาพแบบ All-in-One เพื่อติดตาม Performance ของ Social Profile (ของเราเอง) ค้นหาจุดขายที่โดดเด่น โดยมี Function ที่น่าสนใจดังนี้
1.Listening ช่วยให้แบรนด์สร้างความเข้าใจกับ Audience เพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่ตรงใจและแข่งขันได้
2.Audience Analysis ช่วยทำให้รู้ว่า Audience ชอบอะไรและวางแผนธุรกิจได้
3.Customer Feedback เพื่อติดตามดูว่าใครพูดถึงแบรนด์เราว่าอะไร อย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นการแสดงทัศนคติที่มีต่อแบรนด์ ( Customer Attitudes) และประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ข้อมูลในส่วนนี้ผู้เขียนแนะนำว่าผลที่ได้หากมองข้อมูลและวิเคราะห์ Customer Feedback ดีๆแล้วจะเทียบได้ใกล้เคียงหรือไม่ต่างกันมากกับการทำวิจัยผู้บริโภคที่แบรนด์ชอบใช้กันได้เลย
4.Customer Reserch ข้อมูลใน Report ส่วนนี้จะเน้นเรื่องฐานข้อมูลประชากร ที่สำคัญคือ อายุ เพศ สถานที่ และอุปกรณ์ที่ใช้ เพื่อให้เราเข้าใจ Audience ได้เฉียบคมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สินค้าของคุณช่วยแก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้า
ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้น ยิ่งในสถานการณ์การทำการตลาดออนไลน์ยุคโควิด -19 แล้วการพิจารณาจากเนื้อหาหรือการรับชมและจัดแบ่ง Segmentation ให้ชัดจะช่วยให้คุณแก้ปัญหาของลูกค้าได้ด้วยการนำเสนอวิธีการ (Solution) ที่ลูกค้ากำลังมองหาได้อย่างตรงจุด โดยในส่วนนี้จะเป็นงานที่ฝั่ง Product มาช่วยกันคิดกับฝั่ง Content Creator ร่วมกับ Creative ในการนำเสนอสิ่งที่จะ “ช่วยแก้ปัญหา” (Paint Point) ให้กับลูกค้า
ลูกค้าคุณกำลังสนใจอะไร
แน่นอนว่าเมื่อคุณเดินทางมาถึงข้อ 3 โดยถ้าคุณสามารถระดมสมองภายในองค์กรหรือในทีมการตลาดของคุณ โดยคิดแบบฝั่งของลูกค้า และตอบคำถาม 2 ข้อใหญ่ข้างต้นได้แล้ว คุณจะรู้ได้ว่า ลูกค้า “กำลังสนใจอะไร” ในส่วนนี้ ทางออกของการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ว่าด้วยว่าด้วย 4 P Product Price Place Promotion จึงออกมาได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การจุดกระแสแคมเปญพิเศษ การใช้ Hashtag Keywordที่เกิดจากการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ (ที่ไม่เชื่องช้าและทันเวลา)

Case Study ตัวอย่างการทำ Customer Persona แบรนด์คลินิกความงาม
*ทั้งนี้ Customer Persona จากกรณีตัวอย่างเป็นการนำข้อมูลจาก Insights Data ในช่องทาง Online ต่างๆมารวมกันกับ ข้อมูลการ Focus Group บุคคลที่คาดว่าจะมีลักษณะตรงกับ Segmentation ใน Data ที่ค้นพบเพื่อจัดแบ่ง Customer Persona ในเชิงรายละเอียด
จะเข้าถึงลูกค้าของคุณได้อย่างไร
ถ้าคุณเดินทางมาถึงกระบวนการข้อนี้แล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่องยากแล้วว่าเพราะทีมคุณสามารถตอบคำถาม 3W1H ได้ว่า Who ลูกค้าคุณเป็นใคร What ลูกค้าต้องการอะไร Why ทำไมลูกค้าถึงต้องการสินค้าคุณ (ถ้าไม่เลือกคู่แข่ง) และ How คุณจะเข้าถึงลูกค้าอย่างไร ในที่นี้หากพูดถึงช่องทาง Platform Online นั้นมีให้เลือกมาก ตามประเภทและนิสัยใจคอที่ข้อมูล Insights ได้บอกใบ้ออกมา
Case Study วาง 3W1H Focus ให้ชัดก่อนเลือกหา Influencer
ใช้ Influencer ให้ตรงเพื่อช่วยพูดแทนแบรนด์
ไม่ว่าความหมายของ การใช้ Influencer ในการทำการตลาดในเชิงนิยาม (Definition) จะเป็นอย่างไรแต่ในแง่ของการวัดผลในเชิงธุรกิจจริงแล้ว ในยุคที่การใช้งบประมาณต้องคุ้มค่ามากที่สุด และปลายทางของแบรนด์หรือผู้ประกอบการย่อมอยากให้การทำ Influencer Marketing ที่ทุ่มงบไปมหาศาลช่วยให้มียอดขายกลับมาบ้าง ไม่ใช่เพียงตัวเลขการรับรู้แบรนด์ (Awreness) เท่านั้น
ลองทำตามขั้นตอนกระบวนที่ผู้เขียนพิสูจน์แล้วเชื่อว่าคุณจะสามารถเลือกได้ถูกต้องมากขึ้นว่า “ลูกค้าคุณเป็นใคร” และถ้าต้องมีใครสักคนมาเป็นเพื่อนกับลูกค้าของคุณ คุณจะต้องใช้คนบุคลิกลักษณะอย่างไรเพื่อให้ “ลูกค้าคุณเปิดใจ” ด้วย Messageการสื่อสารแบบไหนที่จะช่วยให้ลูกค้าไว้วางใจที่สุด ในยามที่แบรนด์และผู้บริโภคต้องรักษาระยะห่างต่อกันในสถานการณ์โควิด -19 เช่นนี้
หากมีข้อสงสัย สอบถามปรึกษาที่ Upmoneyday by Chanikan
ฟังเวอร์ชั่นเสียงผ่าน
YOUTUBE CHANNEL UPMONEYDAY DIGITAL MARKETING
Subscribe to our newsletter
- Get notified when new blogs arrive
- Up to date with the latest digital trends
- Get access to exclusive offers